จากพาร์ทก่อนเราจะอยู่ที่ Grand Archives
จุดบอนไฟ Grand Archives แล้วไปสำรวจทางขวา
พบลิฟต์ตัวนึงยังใช้การไม่ได้
*ลิฟต์ตัวนี้จะพาไปยังชั้นบนสุดของที่นี่
เดินกลับมาหน้าทางเข้าพบอาวุธและกุญแจ Grand Archives Key แล้วก็เปิดประตูเข้าไปด้านในกัน
*ใครที่เล่นลัดมา หากยังไม่ได้ฆ่า Lord of Cinder 3 คน Abyss Watcher , Aldrich , Yhorm จะไม่เจอกุญแจนี้
เปิดเข้ามาถึงจะพบ Crystal Sage ให้เข้าไปโจมตีมัน สักพักมันจะหนีไป
*หากฆ่าได้ทันทีก็ได้ไอเทม Crystal Scroll
จากหน้าทางเข้า ไปทางซ้าย
ตรงไปตามทา
เดินมาจนถึงจุดนี้ ให้มองกลับมา
จะมีทางเดินเล็ก ๆ ไปเก็บไอเทม
ที่ในห้องสุดทางพบกระดิ่ง Crystal Chime
ย้อนกลับมาตรงที่นี่ วิ่งไปตรงบ่อเทียน
ที่บ่อเทียนจะมีคำสั่งให้ จุ่มหัวลงไปในเทียนได้ หากเราจุ่มหัวเราลงไป เมื่อติดอยู่ในสถานะนี้ พวกหนังสือคำสาปจะไม่เล่นงานเรา จากนั้นก็ไปต่อทางนั้น
ห้องนี้มืดพอสมควร จากตรงนี้ให้ตรงไปด้านหน้า
พบสวิตซ์ 1 อัน สับสวิตซ์ซะ
จากตรงนี้จะเห็นทางลับเปิดออก
ด้านในห้องมีเวทย์ไพโร Power Within
*เพิ่มพลังโจมตีทั้งหมด 20% + เพิ่มการ Regen สตามิน่าเข้าไปอีก +30/วิ แลกกับ hp ที่ลดลงเรื่อยภายใน 15 วิ
และแส้ Witch's Lock
ออกจากห้องลับมา แล้วไปต่อทางนี้
จะเห็นบันได
เข้าไปเตะบันไดลงเพื่อทำเป็นทางลัดไว้ จากนั้นไปอีกทางนึง
เดินมาจนถึงจุดในภาพ มองเข้าไปทางด้านขวา
เข้าไปสับสวิตซ์ แล้วกลับออกมา
*สวิตว์จุดนี้หากย้อนกลับลงไปด้านล่าง บริเวณบ่อจุ่มเทียนจุดแรกก่อนเข้าห้องมืด จะมีทางเปิดไปเอา titanite slab
**ผมจะแทรกรูปให้ด้านล่างละกัน เพื่อไม่ให้ งง เส้นทางทีจะไปต่อ
*สวิตว์จุดนี้หากย้อนกลับลงไปด้านล่าง บริเวณบ่อจุ่มเทียนจุดแรกก่อนเข้าห้องมืด จะมีทางเปิดไปเอา titanite slab
**ผมจะแทรกรูปให้ด้านล่างละกัน เพื่อไม่ให้ งง เส้นทางทีจะไปต่อ
ย้อนกลับมา ขึ้นบันไดนี้ไป ไปตามลูกศร จนสุดทาง
*จำแยกบันไดนี้ไว้ด้วย
ที่ตรงสุดทางนี้ เมื่อมองลงไปด้านล่างจะเห็นไอเทมและทางที่สามารถหย่อนตัวลงไปได้
หลังจากเก็บไอเทมแล้ว ให้หย่อนตัวลงไปอีก
*ตรงนี้จะโดดให้ลงไปดี ๆ ยากนิดนึง ระวังตาย
เราจะตกมาในตำแหน่งดังรูป
Avelyn หน้าไม้ที่ยิง 3 นัดต่อ 1 ครั้ง
จากนั้นก็ให้ขึ้นบันไดทางลัดที่เปิดไว้ก่อนหน้านี้เพื่อกลับไปยัง ทางแยกบันไดด้านบน
ที่แยกนี้ คราวนี้เราจะไปทางนี้กัน
ตรงไปตามทางเรื่อย ๆ
จนมาถึงแถว ๆ นี้ จะมีทางลับอยู่ โจมตีเพื่อเปิดทางเข้าไป
พบ Outrider ตัวสุดท้ายในเกม
เดินเข้าไปด้านในอีกพบเวทย์ Sorcery
*Soul Stream เวทย์ยิงพลังคลื่นเต่า
*Soul Stream เวทย์ยิงพลังคลื่นเต่า
ย้อนกลับมานอกห้องก่อนเข้าทางลับ เลี้ยวไปทางซ้าย
ลงบันไดไปชั้นล่าง
ลงมาแล้วตรงไปตามลูกศร
จะพบสวิตซ์ซ่อนอยู่ข้างสะพาน
หลังจากสับสวิตซ์จะเปิดทางลัด และพบศพด้านใน
Scholar Ring เพิ่ม Int 5 Point
หันกลับมาข้ามสะพานไป
หากยังฆ่า Crystal Sage ไม่ได้ก็ปิดฉากมันให้ได้ตรงสะพานนี่แหละ จะได้ Crystal Scroll
*ตอนนี้เราก็ได้ Scroll อันสุดท้ายแล้ว นำไปมอบให้ Orbeck เพื่อจบเควสของเขาได้เลย
**ควรจะซื้อเวทย์จาก Orbeck ให้หมดด้วยเพราะเขากำลังจะตายในไม่ช้าแล้ว
แล้วก็ข้ามสะพานตรงไป
*จุดรั่วพังด้านซ้ายจะเป็นทางหย่อนตัวลงไปฆ่า จิ้งก่านะครับ
เดินมาตามทางพบลิฟต์ด้านขวา ให้เดินเข้าลิฟต์ลงไปเปิดทางลัดก่อน
เมื่อลงลิฟต์มาแล้วตรงสุดทางจะพบสวิตซ์ สำรวจเพื่อเปิดทางลัด แล้วย้อนกลับขึ้นไปด้านบนได้เลย
*ทางลัดตรงนี้จะเชื่อมกับชั้นล่างในห้องสมุดฝั่งขวา
ขึ้นมาแล้วให้ไปต่อทางนั้น
จากตรงจุดนี้ตรงไป
*ด้านซ้ายมีหีบ
**บริเวณนี้ให้จำไว้ดี ๆ เพราะหลังจากนำ Scroll ไปให้ Orbeck ครบ 4 อันและฆ่าบอส Twin Princess เขาจะมาตายตรงโต๊ะด้านซ้ายนี้
ขึ้นถึงตรงนี้แล้วไปเก็บไอเทมด้านหลังขวาก่อน
รีบเก็บรีบออก !
Fleshbite Ring ป้องกันพิษ เลือดออก คำสาป และ น้ำแข็ง
*ถ่ายตรงจุดเก็บไม่ทัน 555+
ออกมาทางนี้ไปทางซ้าย
จากตรงนี้มีทางไป 2 ทาง ไปสำรวจทางขวานี้ก่อน
จะมีจุดที่กลิ้งลงไปได้
โดดลงมาถึงตรงนี้แล้วก็ลงไปอีกนิด
ตรงไปตามทางเรื่อย ๆ
สุดทางบริเวณนี้ ให้กระโดดข้ามหลังคาไป
พอโดดข้ามมา สังเกตุตรงจุดที่ผมวงไว้ ตรงนี้จะพบศพของ Greirat และมีเถ้ากระดูกของเขาให้เก็บ
*นำเถ้ากระดูกไปให้ป้า Shrine Handmaid ป้าจะขายทุกสิ่งที่ Greirat เคยขายทั้งหมดก่อนตายและถือว่าจบเควสของ Greirat แล้ว
**ในภาพจะไม่เห็นศพ Greirat นั่นเพราะผมดันลืมส่งเขาออกไปตอนเข้าอิรีธีล ส่งผลให้เขาตายและเควสขาด
***หากเล่นมาตามไกด์ผม ผมได้เขียนเตือนไว้แล้วในพาร์ทอิริธิลว่าให้ส่งเขาออกไปหาของตอนที่ หัวหอม Siegward ยังอยู่ในพื้นที่นั้น เพราะฉะนั้นถ้าตามมาตลอดก็จะไม่เป็นแบบผมแน่นอน
****ส่วนภาพศพของ Greirat นี้ผมมาเพิ่มให้ในภายหลังนะ 29/5/2559
****ส่วนภาพศพของ Greirat นี้ผมมาเพิ่มให้ในภายหลังนะ 29/5/2559
กระโดดข้ามหลังคาตรงนั้นแล้วย้อนกลับไปด้านบน
กลับมาตรงจุดนี้ คราวนี้เราจะไปทางด้านหน้ากัน
ขึ้นทางหลังคาด้านซ้ายไป
*ไม่ต้องสนไอเทม บนระเบียงด้านขวานะ เดี๋ยวจะได้มาเก็บเอง
ตรงไปตามทางบนหลังคา
สุดทางจะพบ กระจกแตก ให้เข้าไปทางนี้
เก็บ Bone Shard แล้วตรงไปตามทาง
สังเกตุข้าง ๆ จะมีจุดให้ เตะบันไดลงไปเพื่อเปิดทางลัด
เดินมาถึงจุดนี้ตรงออกไปทางลานกว้าง เตรียมตัวให้พร้อมนิดนึง
*ถ้าตรงไปต่อก็จะเป็นระเบียงด้านขวาที่ผมบอกก่อนหน้านี้แหละ
จะพบแก๊ง 3 ช่า จัดการให้หมด เพื่อไอเทม!
ดาบคู่ญี่ปุ่น
มาถึงตรงนี้ให้ไปเหยียบลิฟต์เพื่อเปิดการทำงานลิฟต์ก่อน
เหยียบแล้วออกมา
ออกนอกประตูไปทางซ้าย
เดินขึ้นมาแล้วไปทางขวาก่อน
ตรงจุดนี้จะเดินต่อไม่ได้ให้ขึ้นบันไดไปอีกชั้น
แล้วก็ไปทางนั้น
สุดทางพบ Estus Shard
เดินกลับมาทางเก่าแล้วเดินขึ้นไปอีก
เดินวนรอบ ๆ นี้ก่อน จะพบ อ้วนพริ้วทองคำ 3 ตัว
ฆ่ามันทั้ง 3 ให้หมด (ล่อไปฆ่าทีละตัวเถอะ) มีตัวนึงตก Slab
พอจัดการพวกอ้วนพริ้วได้แล้วก็หาทางขึ้นไปด้านบนต่อ
ที่ด้านบนสุด พบแหวน Hunter's Ring เพิ่ม Dex 5 Point
ลงมาด้านล่างหอคอย มองหาประตูนี้
จะมีทางให้ลงไปได้
ลงไปในกรง
เวทย์มิราเคิล Divine Pillar of Light ร่ายเสาแห่งแสงออกมาจากพื้น
*เวทย์ที่อ้วนพริ้วมันใช้นั่นแหละ
จะมีทางออกจากกรง ให้หย่อนตัวลงไปดี ๆ ตรงทางเดิน
แล้วให้มองหาทางหย่อนตัวลงไปอีกครั้งนึง
เมื่อลงมาแล้ว จะมี หนอนยิงเวทย์อยู่ตัวนึง แถว ๆ ที่มันอยู่จะมีบันไดปีนลงไปด้านล่างได้
พบหีบอีก 2
ออกไปทางนี้ จะพบว่าวนกลับไปทางก่อนหน้านี้
แล้ววิ่งย้อนกลับมาตรงถึงแถว ๆ นี้ ให้ตรงไปเรื่อย ๆ
*ศัตรูเยอะมาก
ที่เกือบ ๆ สุดทาง ด้านขวาจะพบ ลิฟต์ ให้เข้าไปสำรวจก่อน
ลงลิฟต์ไปด้านล่าง จะพบว่าเป็นลิฟต์ตรงก่อนสู้กับ Dragon Slayer Armour
*แนะนำให้ไปพักผ่อนที่บอนไฟ Dragon Slayer Armour เตรียมตัวให้พร้อมก่อนสู้บอส
และกลับมาตรงลิฟต์ตัวที่เราลงมาเมื่อกี๊ จากในภาพจะเห็นว่าผมได้ Slab อีกชิ้น
อธิบายก่อนว่าลิฟต์ตัวนี้จะเป็นลิฟต์ซ้อน 2 ตัว ตัวนึงจะพาไปเก็บ Slab และอีกตัวนึงคือลิฟต์ที่พาไปยังด้านบน หน้าห้องบอส หลังจากเก็บ Slab แล้ว ให้ขึ้นลิฟต์อีกตัว กลับไปด้านบนหน้าห้องบอส
ขึ้นมาแล้วก็เปิดประตูเข้าไปด้านในได้เลยจะพบบอสอยู่ด้านใน
Twin Prince Lorian & Lothric
วิธีสู้ : บอส Lorian คนพี่จะออกมาฉะกับเราก่อน ลักษณะการโจมตีของ Lorian จะไม่ค่อยมีลูกเล่นอะไร นอกจากฟันต่อเนื่อง 1-3 ครั้ง ให้ระวังแค่การวาร์ปมาโจมตี คนส่วนมากมักจะตกใจที่บอสวาปมาแล้วกลิ้งก่อน ที่เราควรทำคือตั้งสติ รอบอสวาปเสร็จก่อนแล้วค่อยกลิ้งหลบการโจมตี ท่าดาบแสงฟันลงพื้น ให้ถอยออกมาห่าง ๆ น่าจะดีกว่า อย่าเข้าไปใกล้ เพราะระยะโจมตีค่อนข้างกว้างกว่าที่เห็น และรุนแรงมาก ๆ (หรือจะเสี่ยงวิ่งลุยเข้าไปหาจังหวะฟันฟรีด้านหลังก็ได้ ถ้าคุณวิ่งทันนะ) จังหวะการโจมตีคืนก็คือหลังจากมันฟันเสร็จนั่นแหละครับแล้วก็อย่าโลภด้วย จำลักษณะพวกนี้ให้ได้ จะเอาชนะร่างแรกได้อย่างไม่ยากเย็นเลย
หลังจากล้มร่างแรกได้ Lothric คนน้องจะชุบชีวิตพี่และลงมาแจมด้วยโดยขี่หลังพี่ชาย (ลำบากพี่แท้ ๆ แทนที่จะหรอยยิงเราฟรีด้านบน 555+) สเต็ปในช่วงหลังนี้หลัก ๆ ก็เหมือนเดิมครับ ระวัง Lorian เป็นหลัก Lothric ดูเหมือนจะแค่ร่ายเวทย์ก่อกวนเราเพิ่อให้สมาธิแตกซะมากกว่า จังหวะกวน ๆ ที่ Lothric ทำก็คือ หลังจากท่าฟันดาบแสงแล้ว Lothric จะยิงเวทย์ Soul Spear (ธาตุแสง !) ใส่เรา และ ร่ายเวทย์ คล้าย ๆ Soulmass หลาย ๆ ลูกใส่เรา เพื่อก่อกวนเท่านั้นเอง ให้พยายามรวบรวมสมาธิดี ๆ และหลบดาบของ Lorian แล้วใช้หลักการเดิม ๆ เอาชนะมันให้ได้เท่านั้นเอง โดยถ้าเป็นไปได้ให้ลอบเข้าไปโจมตีคืนทางด้านหลัง เราจะทำ ดาเมจได้ทั้งคนพี่และคนน้องพร้อมกันไปเลย เพราะหากฆ่าตัวพี่ Lothric ได้เราก็จะชนะทันที แต่ถ้าคิดว่ายังหาจังหวะไม่ได้ขนาดนั้นก็หลบให้ได้แล้วฟันคืนไปตามปกติก็พอครับ
กรณีโดยส่วนมาก Lorian จะตายก่อนคนพี่ ซึ่งหากเกิดกรณีนี้ขึ้น ในช่วงที่พวกมันล้มลม ให้รีบกระน่ำโจมตี Lothric ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าฆ่า Lothric ได้ก็ชนะทันที
*ระวังท่าระเบิดแสงตอนชุบ Lorian ด้วยนะ
และอีกกรณีนึงซึ่งน่าจะเกิดกับหลาย ๆ คน คือ Lothric ชุบชีวิต Lorian สำเร็จอีกครั้ง สิ่งเราต้องทำก็เหมือนเดิม หากฆ่า Lothric ทีเกาะหลังได้ก็คือชนะทันที
วิธีสู้บอสตัวนี้ยาวหน่อยนึงนะครับ แต่น่าจะช่วยให้หลาย ๆ คนพอจะเข้าใจลูกเล่นบอสตัวนี้ได้ดีเลย และชนะมันง่ายขึ้น
เมื่อชนะเราก็จะได้ Cinder of a Lord ชิ้นสุดท้ายมา
จุดบอนไฟ Twin Princes แล้วเดินทางกลับ Firelink Shrine
กลับมาที่บัลลังก์ นำ Cinder of a Lord ของ Lothric วางลงไป
เมื่อวางครบแล้วให้สำรวจที่บอนไฟ จะพบคัตซีน
*หลังจากผ่านคัตซีนนี้มาเก็บแหวน Skull Ring ที่บัลลังก์ของ Ludleth ด้วยนะ
**Skull Ring ทำให้ศัตรูพบเจอเราง่ายขึ้น ไว้ล่อศัตรูได้ดี
*หลังจากผ่านคัตซีนนี้มาเก็บแหวน Skull Ring ที่บัลลังก์ของ Ludleth ด้วยนะ
**Skull Ring ทำให้ศัตรูพบเจอเราง่ายขึ้น ไว้ล่อศัตรูได้ดี
เราจะมาโผล่ที่บอนไฟ Flameless Shrine ใน Kiln of the First Flame
**ก่อนหน้านี้หากได้คุยกับ Yuria เรื่องที่นางให้ไปฆ่า Orbeck ตอนนี้เราก็เอาเถ้ากระดูกไปให้นางเพื่อจบเควสได้แล้วนะ
***อันนี้เป็นภาพเพิ่มเติมที่บอกเกี่ยวกับตำแหน่ง titanite slab หลังจากสับสวิตซ์แล้ว
***อันนี้เป็นภาพเพิ่มเติมที่บอกเกี่ยวกับตำแหน่ง titanite slab หลังจากสับสวิตซ์แล้ว
สังเกตุจากบ่อจุ่มเทียนเดินมาทางนี้
จะพบหีบนึงซึ่งมี Slab อยู่
****เควสของ Sirris ในตอนนี้ก็ถือว่าจบลงแล้ว เพราะนางจะตายอยู่นอก Firelink Shrine แล้ว
*****ตอนนี้สามารถไปใช้บริการของ Rosaria ได้แล้ว ไม่ต้องกลัวเควสของ Sirris ขาดอีก
******เควสตัวอื่นค้างไว้พาร์ทหน้า
พาร์ทหน้า Kiln of the First Flame เป็นฉากหลักสุดท้ายแล้วนะครับ แต่ว่าเราจะยังไม่ขึ้นรอบใหม่กันแค่ไปจบเกมไว้ก่อนและดำเนินเควสที่เหลือกันด้วย ยังมีอีกหลายสถานที่เลยที่เรายังไม่ได้ไป จำไว้ด้วยว่า อย่าพึ่งขึ้นรอบใหม่กันนะครับ เดี๋ยวผมเองจะคอยเตือนอีกที
ดูต่อที่ Kiln of the First Flame
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แนวทางการอัพตัวละครไกด์ ณ เลเวล 89
จะเห็นว่าค่า Str ถึง 45 เลยทีเดียว จริง ๆ แล้วผมอัพค่า Str ไว้ที่ 40 เท่านั้น แต่เพราะใส่แหวน Knight Ring เลยเห็นเป็น Str 45 ค่าสเตตัสที่กำลังลงอยู่ในตอนนี้คือ Faith ต้องการให้ได้สัก 16 ก่อน เพื่อให้สามารถใส่ดาบ Sunlight Straight Sword ได้ และจะลงค่า Faith ต่อไปอีกจนถึง 30 เพราะต้องการให้ใช้เวทย์ Lightning Blade ให้ได้ (ซึ่งไม่รู้เลยว่าจะได้ใช้ก่อนจบการไกด์ไหม 555+) พอมาถึงตรงนี้อาจจะเห็นว่าค่าสเตตัสของตัวละครไกด์มันมีมั่ว ๆ ไปทาง dex กับ att บ้างเล็กน้อย ในอนาคตข้างหน้า ผมจะอัพ att ให้สามารถร่ายเวทย์ Lightning Blade ให้ได้สัก 2 ครั้ง (ใช้ครั้งละ 50 ต้องการ FP 100) และค่า dex ที่เผลออัพไปในอนาคตก็จะมารองรับดาบ Sunlight Straight Sword ใน Scale Dex พอดี ส่งผลให้ตัวละครไกด์นี้ไม่ถือว่าอัพมั่วแต่อย่างใด 55555
ปล.ตลอดการเล่นผมก็ลืมบอกเลย ดาบที่ผมใช้ในตอนนี้คือ Heavy Broadsword+10 Scale Str A เลยทีเดียว ส่วนโล่ใช้ Yhorm Greatshield+5 ซึ่งเดินทางได้สบายมาก ๆ เลยตั้งแต่มีโล่นี้
ปล.ตลอดการเล่นผมก็ลืมบอกเลย ดาบที่ผมใช้ในตอนนี้คือ Heavy Broadsword+10 Scale Str A เลยทีเดียว ส่วนโล่ใช้ Yhorm Greatshield+5 ซึ่งเดินทางได้สบายมาก ๆ เลยตั้งแต่มีโล่นี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น