วันศุกร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2560

บทสรุป Dark Souls 3 - DLC Ringed City Part.3 [Final] At World's End


จากพาร์ทที่แล้วเราจะยังอยู่กันที่บอนไฟ Ringed City Streets
ให้ไปทางประตูลูกกรงเพื่อไปยังสะพานครับ

 ลงไปทางข้างสะพานก่อนเพื่อเก็บไอเทม

 สำหรับโล่นี้ถ้าถือไหวก็ช่วยกันไฟได้มากเลย

กลับมาที่ตรงก่อนข้ามสะพาน คงจะเห็นตัวอะไรสักอย่างแถว ๆ นี้แล้วใช่ไหมครับ
จากตรงนี้ ต้องคอยหลบการบินพ่นไฟ ซึ่งทางด้านขวา แถว ๆ ที่มีไอเทม จะมีซอกเล็ก ๆ ให้เข้าไปหลบได้อยู่ ให้ระวังศัตรูที่เฝ้าทางด้วย หากจวนตัวจริง ๆ ก็กางโล่กันไฟไปเลย แล้วให้ลุยไปจนถึงหอคอย (ตามทางก่อนถึงหอคอยจะมีไอเทมปลีกย่อยเล็ก ๆ น้อย ๆ)

หลังจากเข้ามาแล้วให้เดินขึ้นบันไดไปจนถึงจุดที่ทางถล่ม

 เมื่อตกลงมาแล้วจะเจอ NPC Invader Moaning Knight

ระหว่างทางมาก่อนเจอเขาจะมีไอเทม Lightning Gem, Simple Gem นะครับ พยายามสู้กับเขาในทางแคบ ๆ ให้ชนะจะได้ไอเทม Blindfold Mask มาใส่เล่น แล้วเดินไปเรื่อย ๆ จะมีทางให้โดดลงไป

เราจะกลับมาตรงจุดที่เข้าหอคอยพอดี คราวนี้เราจะลงบันไดแล้วเข้าไปห้องทางด้านขวาก่อน 

เราจะพบ Lapp นั่งด้วยท่าแปลก ๆ ที่คุ้นตา ให้เข้าไปคุย ตอนนี้เหมือนเขาจะจำทุกอย่างได้แล้ว

หากยังไม่มี Gesture Patches Squat ก็จะได้มา (ชักตะหงิด ๆ กว่าเดิม)

 คุยเสร็จแล้วให้เดินไปยังจุดที่ผมบอกจะพบคัตซีน

THIS IS SPARTANNNNNNNNNNNN !!!!
(หลังจากนี้จะทราบว่าตัวจริงของ Lapp เป็นใคร)

หลังจากโดนถีบลงมาแล้ว เดินต่อมาจะพบจุดที่หย่อนตัวลงมาอีกที (ตามภาพ)
ให้เก็บไอเทม เดินหาทางขึ้นบันไดไปเรื่อย ๆ ครับ


ตรงแถว ๆ นี้ บันไดจะขาดช่วงแล้ว ต้องเข้าไปทางซ้าย 
(ไอเทมด้านขวา คือ จุดที่ Patched ถีบเราลงมา) 

เดินมาจนถึงจุดนี้ สามารถกระโดดข้ามไปเอาไอเทมที่ Patched ทิ้งไว้ได้ (หรือหากพลาดตกก็ค่อย ๆ เดินหาทางขึ้นไปเก็บเอานะ)

จะได้ Lapp Set ครบเลย และหากยังไม่เคยมีไอเทม Champion's Bones ก็จะได้มาด้วยแบบนี้ สำหรับเควสของ Lapp จะจบลงที่นี่นะครับ 😊

หาทางกลับมาตรงแยกนี้แล้วไปทางซ้าย 

จะพบบอนไฟจุดที่สี่ Shared Grave จุดแล้วไปต่อทางข้างหน้า

จะพบมังกรตัวที่ก่อกวนเราก่อนหน้านี้  (ตรงจุดที่ผมยืนในรูปสามารถยืนล่อให้มังกรพ่นไฟได้นะ)

แล้วรีบวิ่งเข้ามาจ้วงทีละนิดจนกว่ามันจะตายไปเลย (หากต้องการจะสู้กับบอสเสริมตัวนี้ ต้องทำเงื่อนไขตรงจุดนี้ก่อน คือ ไล่มันลงไปในหลุม ถึงจะสามารถสู้กับมันได้ในภายหลัง) 

หลังจากจัดการมันได้แล้วก็ไปต่อตามทาง 

 เมื่อเข้ามาแล้วจะมีทางลับอยู่ตรงนั้น (3 ชั้น) ให้เข้าไปโจมตีเพื่อเปิดทาง

 ที่สุดทางจะมีเวทย์มิราเคิล Lightning Arrow ที่หลาย ๆ คนอยากได้กัน

 แล้วออกมาขึ้นบันไดไปด้านบน

ที่ห้องรูปปั้น พิคมี่ & กวิน นี้ อย่าพึ่งออกไปทางซ้าย ให้ขึ้นลิฟต์ทางขวาก่อน 

 เมื่อขึ้นมาถึงด้านบนสุด เปิดลูกกรงมาจะพบว่า กลับมาที่บอนไฟ Ringed Inner Wall เตรียมตัวให้พร้อมลุยบอสไว้ด้วย

 กลับลงลิฟต์มา ระหว่างทางจะมีทางลับอยู่กลางลิฟต์

 ที่แยกนี้ให้ไปทางขวาก่อน เพื่อเก็บไอเทมเทพอีกชิ้น

หลังจากเดินมาตามทางและหย่อนตัวลงมา จะสามารถเก็บแหวน Chloranthy Ring+3 (ฟื้นฟูสตามิน่าขั้นเทพ) ได้

 แล้วขึ้นลิฟต์กลับมาที่ทางลับกลางลิฟต์ คราวนี้ไปทางซ้าย

 เดินมาถึงห้องนี้แล้วมองหา 'รูปปั้นที่ไม่มีดาบ' โจมตีเพื่อเปิดทางลับ

ลงบันไดไป

 เสื้อโชว์นม !

 มีจุดซัมม่อน npc ด้วยนะ (ผมก็ไม่รู้นะว่า เวิร์คไหม เพราะไม่เคยเชิญ ถถถถ)
 น้อง Shira สาวหลังประตูนี่เอง

Darkeater Midir
ลักษณะการโจมตี : ถือว่าครบเครื่องทีเดียวสำหรับบอสเสริมตัวนี้ ทั้งท่าระยะใกล้ระยะไกลมีหมด ทั้งจากโจมตีต่อเนื่องแบบกายภาพ เวทย์มนต์ และพ่นไฟ ความถึก ความเร็ว ฟังดูเหมือนจะโหดแต่ดันไม่โหดเท่าที่คิด (อ้าว)

วิธีสู้ : หลัก ๆ พยายามเข้าประชิดมันให้ได้ตลอดเวลา หาจังหวะ เน้นจู่โจมที่หัว เพราะได้ dmg ที่ดีที่สุดบางจังหวะก็ให้โจมตีตอดตามขาและหางไปเรื่อย ๆ 
การโจมตีหลัก ๆ ของมัน
พุ่งชน - กลิ้งหลบทางไหนก็ได้ ท่านี้ค่อนข้างเร็ว
โจมตีต่อเนื่องกายภาพ - หลบเข้าใต้ท้อง ปล่อยให้มันตีมั่ว ๆ ของมันต่อไปจนครบชุด พยายามวิ่งตามไป รอจังหวะที่มันหันกลับมาโจมตีที่หัว (ผมคิดว่าจังหวะนี้เหมาะที่สุดแล้วที่จะรอดักฟันหัวมัน)
สะบัดหาง - ส่วนมากมันจะสะบัดเมื่อเราอยู่บริเวณหางของมัน
พุ่งกัด - กลิ้งหลบตามปกติ หากโดนค่อนข้างแรงมาก อาจจะตายได้เลยในทีเดียว
พ่นไฟแล้วโจมตีต่อเนื่อง - หลบเข้าใต้ท้อง ปล่อยให้มันตีมั่ว ๆ ของมันต่อไปจนครบชุด พยายามวิ่งตามไป รอจังหวะที่มันหันกลับมาโจมตีที่หัว ในช่วงหลัง ๆ ตอนมันใกล้ตาย มันจะทำแบบนี้ต่อเนื่อง 2-3 ชุด ให้หลบไปจนกว่าจะเหนื่อย
พ่นไฟลงพื้น - จะเกิดขึ้นตอนที่เราหลบไปอยู่ใต้ท้องมัน ให้รีบวิ่งไปที่หางเพื่อโจมตีฟรี ๆ ได้อีก
พ่นไฟกวาด - หนีออกมาไกล ๆ ให้พ้นระยะ หรือ จะกางโล่กันไปเลยก็ได้
บินพ่นไฟ - กลิ้งหลบได้ แต่ยังโดนสะเก็ดไฟได้อยู่ ทางที่ดีควรหลบให้พ้นระยะจะดีกว่า
เวทย์มืดแบบระเบิดรอบตัว - หนีออกมาไกล ๆ ตัวมัน
เวทย์มืดแบบเม็ดเล็ก ๆ ติดตามตัวเรา - วิ่ง ๆ กลิ้ง ๆ หลบไปเรื่อย ๆ จนหมด

 หลังจากฆ่ามันจะได้ ตราประจำ Covenant Spear of the Church
ส่วน Soul of Darkeater Midir สามารถนำไปแลก Frayed Blade (ดาบญี่ปุ่นสายมืด เวพ่อนอาร์ตเท่มาก) และ เวทย์ซอเซอเรอร์ Old Moonlight 

 จุดบอนไฟที่ห้า Darkeater Midir แล้ววาร์ปกลับที่ Ringed Inner Wall
(ควรเตรียมตัวให้พร้อมอีกรอบ เพราะต้องสู้บอสอีก)


กลับมาตรงห้องรูปปั้น พิคมี่ & กวิน ไปต่อยังทางที่เหลือ 

- ด้านขวาจะมี แท่นของสมาคม Spears of the Church
- ฆ่าอัศวินดาบคู่เพื่อเอาดาบมันมา
- ลุยเข้าไปเปิดประตูใหญ่
*นำ Filianore's Spear Ornament ไปมอบ
จำนวนทั้งหมดถึง 10 ชิ้น เพื่อขึ้น Rank 1 จะได้รับไอเทม Young Grass Dew
จำนวนทั้งหมดถึง 30 ชิ้น เพื่อขึ้น Rank 2 จะได้รับไอเทม Divine Spear Fragment

หลังประตูหมอกก็เป็นห้องบอสแล้ว 

Half-Light 
ลักษณะการโจมตี : โจมตีด้วยเวทย์มิราเคิล และ ดาบญี่ปุ่นสายมืด ลักษณะเหมือน NPC ตัว ๆ ที่ไปอึด และเก่งกว่านิดหน่อยเท่านั้นเอง จะมีพวกศัตรูจากโลกภาพวาดมารุมก่อกวนเป็นระยะ ๆ

วิธีสู้ : เหมือนกับ PvP กับคน หรือสู้กับ NPC Inveder นี่แหละครับ ซึ่งก็ไม่ได้ยากอะไร (ไม่รู้จะแนะนำอะไรดี 5555)
การโจมตีหลัก ๆ ของมัน
- โจมตีกายภาพด้วยดาบ 1-3 ครั้ง
- ร่ายเวทย์มิราเคิลเม็ดกลม ๆ 5 เม็ด (จะพุ่งเมื่อเราเข้าไปในระยะ)
- แพรี่ !
- ร่ายเวทย์มิราเคิลหอกแสง เป็นกับดักทิ้งไว้ตามพื้น
- โจมตีด้วยเวพ่อนอาร์ต ทั้งโจมตีเป็นคลื่นระยะกลาง และโจมตีต่อเนื่องระยิดใกล้

 หลังจากสู้จบแล้วให้ไปห้องต่อไปจะพบบอนไฟที่หก

ให้เตรียมตัวให้พร้อมอีกครั้ง แล้วขึ้นลิฟต์ไปด้านบน

มาถึงห้องของหญิงสาวปริศนา Filianore ที่มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นลูกสาวคนเล็กของสุดท่าน Gwyn ที่โดนปิดบังมาตลอด
สำรวจแล้วเธอจะตื่นขึ้น (แล้วก็เกิดอะไรขึ้นอีกก็ไม่รู้เหมือนกัน งง มาก)

จุดบอนไฟ  Filianore's Rest แล้วออกไปทางนั้น

บอสตัวสุดท้ายของ DLC นี้และตัวสุดท้ายของซี่รี่ย์นี้ รออยู่ ณ ซากปลักหักพังข้างหน้าแล้ว

Slave Knight Gael 
(Red Hood)
ลักษณะการโจมตี : อารมณ์ที่ได้เวลาสู้กับลุงแกเหมือนตอนฉะกับอาโทเรียสใน dlc ภาคแรกเลย ลุงแกจะเน้นที่การโจมตีกายภาพนี่แหละ สับ ๆ ๆ แล้วก็สับ

วิธีสู้ :  ดูเหมือนจะง่ายกว่าอาโทเรียสเยอะเลย ทุก ๆ ท่าสามารถกลิ้งหลบได้ง่าย ๆ แถมบางอาวุธยังสามารถโจมตีให้ลุงแกชะงักได้ง่ายด้วย โล่ก็สามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มที่เลย ผมล็อคเป้าลุงแล้วก็เดินวนขวาหรือซ้าย รอแกฟันมาแล้วก็หาจังหวะตีสวนไปทีละนิดก็ชนะแบบง่าย ๆ แล้ว ท่าโจมตีของลุงแกก็ไม่ค่อยมีอะไรมาก อาจจะแตกต่างกันไปบ้างแต่ก็กลิ้งหลบได้สบาย ๆ

การโจมตีหลัก ๆ ของลุงแก
- โจมตีกายภาพเป็นจังหวะ ไม่ค่อยต่อเนื่องเท่าไหร่
- หลบฉากแล้วพุ่งแทง/ฟัน - คล้าย ๆ ท่าของ Nameless King
- สู้ไปได้สักพักลุงแกจะเริ่มเถื่อนขึ้นมาพอสมควร นอกจากมีการโจมตีด้วยดาบแล้ว ให้ระวัง ผ้าคลุมของลุงด้วย
- มีท่าระเบิดเป็นคล้าย ๆ เม็ดเลือดรอบ ๆ ตัวแกกึ่งติดตามนิดหน่อย
- ปล่อยเวทย์ลมเฉือนไปและกลับ
- ยิงหน้าไม้รัว ๆ
*ลุงแกเป็น NPC ที่พาเราเข้า Dlc แรกนะ ซึ่งหลังจากฆ่าลุงตายไม่ต้องกลัวว่าจะเข้า dlc Ash of ariandel ไม่ได้ ยังสามารถเข้าได้ตามปกติ ที่จุดเดิม

Soul of Slave Knight Gael นำไปแลกดาบของลุง Gael's Greatsword และ หน้าไม้ยิงรัว ๆ ของลุง Repeating Crossbow
*Blood of the Dark Soul นำไปให้หญิงสาววาดภาพ Painting Woman ใน Dlc Ash of Ariandel ได้
(แต่..ไม่เห็นจะได้อะไรตอบแทนเลยสักนิด)

เดินไปตรงกลางซากปลักหักพังจะพบบอนไฟสุดท้าย Slave Knight Gael

วาร์ปกลับมาที่บอนไฟ Filianore's Rest เพื่อเริ่มค้นหาไอเทมที่เหลือในโซนนี้ ออกมาจากห้องแล้วเดินชิดซ้ายไว้

 จะพบอัศวิน จัดการมันแล้วจะได้ Titanite Slab

หลังจากได้ไอเทมแล้ว กลับมาจุดเดิมหน้าห้อง Filianore's Rest คราวนี้ชิดขวาไปตามทาง

 เข้าไปด้านในจนสุดทาง

Shira เธอจะปรากฎตัวออกมา เราต้องสู้กับเธอ

เฉือดเธอแล้วจะได้ Crucifix of the Mad King อาวุธประเภทง้าว บัฟธาตุมืดได้ และยังมี Slab ให้อีกชิ้นด้วย

ตอนนี้ให้วาร์ปไปบอนไฟ Ringed City Streets
วิ่งไปทาง Ringed City ห้องที่เคยคุยกับ Shira จะเปิดออกแล้ว

มี Shira Set

และกลับไปที่ Dreg Heap
จุดที่เคยพบ Stone humped Hag ตอนนี้ป้าแกแก่ตายเรียบร้อยแล้ว เก็บเถ้ากระดูกไปให้ป้า Shrine HandMaid เพื่อขายของ ๆ ป้าหลังเต่านี่ได้

ถือว่าปิดฉาก DLC Ringed City แล้วนะครับ เควสไลน์ก็ครบแล้ว หวังว่าคงไม่หลงทางกันนะ 😊

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เสริมอีกนิด
อันนี้พามาให้ดูว่าถ้าลุงแกตายแล้วจะเข้า DLC แรกยังไง

อันนี้ สเตตัสของตัวละครไกด์นะครับ คนละตัวกับที่ใช้ตอนทำเนื้อเรื่องหลักนะ
จะเห็นว่าอัพแตกต่างกันอยู่นิดหน่อย เนื่องจากช่วงหลังที่ได้มาเล่น dlc นี้ version ในเกมก็ได้เปลี่ยนไปเยอะแล้ว ดาบซันไลท์ที่ิคิดจะใส่ ก็โดนถูกปรับความสามารถลงซะเยอะเลย สเตตัสในตอนนี้ก็เลยเป็นแบบนี้ครับ ยังเน้นที่ความสมดุลเหมือนเดิม จะเห็นว่าค่า str/dex สูงกว่าอย่างอื่น เพราะผมต้องการใช้ดาบญี่ปุ่น Frayed Blade ที่ต้องการค่า Dex ถึง 40 เลย (เวพ่อนอาร์ตโหดมาก สับเลือดแตกสบาย ๆ เลย แถมระยะโจมตีไกลพอสมควร) แถมผมยังมีความต้องการถือโล่ Yhorm's Greatshield ที่ต้องการค่า Str ถึง 40 อีก สเตตัสก็เลยเป็นตามนี้ครับ และพึ่งเริ่มอัพค่าสเตตัสให้ใช้บัฟดาบไฟได้บ้าง จะได้ครบเครื่องกว่านี้

1 ความคิดเห็น:

  1. ยอดเยียมครับ ผมอ่านบทสรุปจนเล่นจบ

    ตอบลบ